Sketchup to Unreal Engine เรียลไทม์ #ออกแบบตกแต่งภายใน #interiordesign #architect

คอร์สสอนออนไลน์ sketchup to unreal engine

คอร์ส unreal engine landscape basic ตั้งแต่เริ่มต้น ลงโปรแกรม

สมัครโทร 0880942832 (ไลน์ @lvt9861u)

การใช้ Unreal Engine เพื่อสร้างการแสดงภาพทางสถาปัตยกรรมเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง และ Datasmith ของ Unreal Engine มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์การนำเข้า SketchUp ไปยัง Unreal Engine อย่างไรก็ตาม ในการสร้างการแสดงภาพที่ไร้รอยต่อด้วย FPS สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชัน เช่น คำแนะนำแบบ VR ผู้ใช้ Datasmith จะต้องสร้างพิมพ์เขียว (การเข้ารหัสด้วยภาพของ Unreal Engine) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและล้างไฟล์ SketchUp ของตน

ด้วยการรวมซอฟต์แวร์ปรับแต่ง 3D อัตโนมัติอย่างเช่น Meshmatic เข้ากับเวิร์กโฟลว์ SketchUp กับ Unreal Engine คุณจะสามารถเพิ่มความเร็วไปป์ไลน์และมั่นใจได้ว่าโมเดล SketchUp ของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับ AR, VR, WebGL หรือแอปพลิเคชันการแสดงภาพอื่นๆ

โพสต์นี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้ Datasmith เพื่อนำเข้า SketchUp ไปยัง Unreal Engine และวิธีที่โซลูชันอัตโนมัติของเรา เป็นวิธีที่เร็วกว่า

ใช้ Datasmith ของ Unreal Engine

ปลั๊กอิน Datasmith Exporter ของ Unreal Engine สำหรับ SketchUp ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงโมเดล SKP ทั้งหมดเป็นไฟล์ตาข่าย Uasset ซึ่งสามารถนำเข้าไปยัง Unreal Engine ได้ อย่างไรก็ตาม การแปลงไฟล์ SketchUp เป็น Uasset เป็นเพียงขั้นตอนแรกในการเตรียมโมเดลของคุณให้พร้อมสำหรับการแสดงภาพแบบเรียลไทม์

ในขณะที่ Datasmith อำนวยความสะดวกในการนำเข้า SketchUp แบบเนทีฟไปยัง Unreal Engine ผู้ใช้ยังคงต้องทำงานด้วยตนเองจำนวนมากเพื่อให้โมเดล SKP ของพวกเขาพร้อมสำหรับแบบเรียลไทม์ รวมถึงการสร้างพิมพ์เขียว แก้ไขข้อผิดพลาดของตาข่าย และปรับฉากให้เหมาะสมสำหรับประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์

การสร้าง LOD และ Lightmaps ใน Unreal Engine

ตัวสร้าง LOD ของ Unreal Engine เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการใช้งาน อย่างไรก็ตาม คุณต้องแน่ใจว่ารูปแบบการป้อนข้อมูลของคุณสะอาด มิฉะนั้น คุณจะได้รับผลลัพธ์ LOD ที่ไม่ดี ซึ่งหมายถึงการทำให้โมเดลของคุณมีใบหน้าและจุดยอดที่ปรับให้เหมาะสม ไม่มีใบหน้าแยกออก และไม่มีเส้นปกติกลับด้าน

Unreal Engine ยังสร้าง lightmap UV ซึ่งเป็น UV ที่มีความละเอียดสูงเพื่อให้เงาที่มีความละเอียดสูงแก่โครงการของคุณ เช่นเดียวกับ LOD โมเดลของคุณจะต้องสะอาดและปรับให้เหมาะสมเพื่อให้ได้แผนที่แสงที่ดี

การปรับปรุง FPS ด้วยตนเองหรือด้วยพิมพ์เขียว

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาเมื่อสร้างการแสดงภาพแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโครงการ AR หรือ VR คือการรักษา FPS ที่สูง FPS แปรผกผันกับจำนวนของตาข่าย (หรือนักแสดง) ในฉากของคุณ คูณด้วยจำนวนของพื้นผิวสำหรับแต่ละตาข่าย ดังนั้น ยิ่งจำนวนตาข่ายในฉากของคุณต่ำเท่าใด FPS ของคุณก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ตามหลักการแล้ว คุณต้องการรักษา FPS ไว้ประมาณ 60-120 สำหรับโปรเจ็กต์แบบเรียลไทม์

เป็นเรื่องปกติที่จะเห็น FPS ที่ต่ำมากหลังจากนำเข้าไฟล์ Uasset เข้าสู่ Unreal Engine ตัวอย่างเช่น ในภาพด้านล่าง จำนวนตาข่ายอยู่ที่ 32,000 ซึ่งค่อนข้างสูง ทำให้ FPS ต่ำที่ 4 โปรเจ็กต์นี้จะไม่สามารถแสดงผลสำหรับ AR หรือ VR

ภาพที่ 1: ไฟล์ SketchUp ภายใน Unreal Engine ที่นำเข้าด้วย Datasmith แสดง FPS ที่ 13

จำนวนเมชที่สูงเป็นผลมาจากส่วนประกอบ SketchUp เดียว เช่น ต้นไม้ ซึ่งแยกออกเป็นกิ่งก้านและใบจำนวนมากหลังจากอิมพอร์ตเข้าสู่ Unreal Engine ในภาพด้านล่าง คุณจะเห็นโครงร่างที่ขยายออกซึ่งแสดงตาข่ายที่แยกจากกัน

ภาพที่ 2: กิ่งก้านและใบไม้ถูกแยกออกเป็นตาข่ายจำนวนมากภายใน Unreal Engine

วิธีแก้ไขคือลดจำนวนตาข่ายในฉากโดยการรวมตาข่ายที่แยกจากกันเหล่านี้กลับเข้าไปใหม่ ซึ่งหมายถึงการทำความสะอาดและปรับแต่งโมเดลภายใน Unreal Engine ด้วยตนเอง เทคนิคการลดขนาดตาข่ายอื่นๆ เช่น การสร้างตาข่ายที่ซ้ำกันยังสามารถช่วยเพิ่ม FPS ได้อีกด้วย การพิมพ์เขียวเป็นวิธีหนึ่งในการทำให้งานที่ต้องทำด้วยตนเองเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติ

ปรับให้เหมาะสมและทำความสะอาดโมเดลของคุณด้วยพิมพ์เขียว

หลังจากนำเข้าไฟล์ Uasset ไปยัง Unreal Engine แล้ว พิมพ์เขียวหรือเขียนโค้ดอาจจำเป็นสำหรับการสร้าง LOD, การรวมเมช, การสร้างอินสแตนซ์ที่ซ้ำกัน, การแก้ไขใบหน้ากลับด้าน, ความปกติที่ไม่ดี และใบหน้าที่แยกออก สำหรับผู้ใช้หลายๆ คน ขั้นตอนนี้อาจท้าทายและใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่คุ้นเคยกับ Blueprinting

ภาพที่ 3: การใช้พิมพ์เขียวเพื่อปรับแต่งโมเดลภายใน Unreal Engine

สอนลง sketchup สำหรับเครื่อง Mac

สอน Unreal Engine Online Tutor

Tel. 0842835236

Line : @lvt9861u